ความสำคัญของการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง

การทำกายภาพบำบัด (Physiotherapy) นับได้ว่าเป็นกระบวนการฟื้นฟูสุขภาพที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่กำลังประสบกับอาการแขนขาอ่อนแรง อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ อาทิ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย หรือโรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy) เป็นต้น เนื่องจากการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงอย่างต่อเนื่องไม่เพียงช่วยทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตและลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วยตนเองได้อย่างปกติอีกครั้ง แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ร่วมกับการช่วยลดภาระของผู้ดูแลได้อย่างแท้จริง

ความสำคัญของการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงในผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

1. การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงกับการช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
   โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยที่กำลังประสบกับอาการแขนขาอ่อนแรงจะไม่สามารถลุกขึ้นเดินหรือหยิบจับสิ่งของเพื่อทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติเหมือนอย่างที่เคยทำ ซึ่งการที่ผู้ป่วยไม่ได้เคลื่อนไหวหรือใช้งานอวัยวะที่อ่อนแรงเป็นระยะเวลานานนี้เองก็จะนำไปสู่การทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเผชิญกับภาวะแทรกซ้อน อาทิ ข้อติด กล้ามเนื้อลีบ หรือการเกิดแผลกดทับ ที่จะทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นฟูร่างกาย อีกทั้งยังอาจส่งผลทำให้ระยะเวลาในการรักษาตัวยืดเยื้อมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงในผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันการช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
   
2. การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงกับการช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว
   การฟื้นฟูการเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญของการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง โดยนักกายภาพบำบัดจะทำการประเมินอาการเพื่อการวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งมักจะเริ่มต้นจากการให้ความสำคัญกับการฝึกฝนความสามารถในการยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวข้อต่อ ไปจนถึงการฝึกกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูร่างกายจนสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นจนมีความใกล้เคียงกับปกติมากที่สุดอีกครั้ง รวมถึงสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวัน อาทิ การเดิน การหยิบจับสิ่งของ หรือการใช้มือข้างที่อ่อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
   
   
3. การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงกับการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความสมดุลให้กับร่างกาย
   การเสริมสร้างความแข็งแรงและความสมดุลของร่างกายเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในการช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยที่กำลังประสบกับอาการแขนขาอ่อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง นักกายภาพบำบัดจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและความสมดุลในการยืน เดิน หรือการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันโดยการใช้ท่าทางที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้มและบาดเจ็บของผู้ป่วย นอกจากนี้ การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงกับนักกายภาพบำบัดยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทของผู้ป่วยทำงานประสานกันได้ดีมากขึ้น จนทำให้ร่างกายของผู้ป่วยสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกครั้ง
   
   
4. การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงกับการช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตใจและความเป็นอยู่ที่ดี
   นอกจากการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงจะสามารถช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูทางด้านร่างกายแล้ว ก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับผู้ป่วยด้วยเช่นเดียวกัน โดยการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงอย่างต่อเนื่องจะช่วยทำให้ผู้ป่วยสามารถสังเกตเห็นถึงความก้าวหน้าในการฟื้นฟูร่างกายของตนเองได้อย่างชัดเจน จนนำไปสู่การช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากความเจ็บป่วย ร่วมกับการช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองอีกครั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวให้เข้ากับอาการเจ็บป่วยและรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการฟื้นฟูร่างกายที่มากขึ้นตามไปด้วย

การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงนับได้ว่าเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยฟื้นฟูสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย ที่ Vitala by Health Design เราคือสหคลินิก คลินิกกายภาพผู้ให้บริการด้านกายภาพบำบัด PMS กายภาพ การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง กายภาพบำบัดเส้นเอ็นอักเสบ นวดสปอร์ต กายภาพออฟฟิศซินโดรม กายภาพบำบัดที่บ้าน กายภาพบำบัดหลังผ่าตัดข้อเข่า นวดรักษาอาการ กายภาพหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ฝังเข็มแก้ปวด กายภาพหัวเข่า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และแพทย์ทางเลือก ที่พร้อมรองรับการให้บริการด้านสุขภาพในทุกมิติเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร และเป็นประโยชน์ต่อการบำบัดอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬามากที่สุด