บำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เทคนิคการรักษาจากเครื่อง PMS

เจาะลึกหลักการทำงาน และประโยชน์ของการบำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่อง PMS กายภาพ

เทคนิคการรักษาจากเครื่อง PMS

อาการปวดเมื่อยเป็นหนึ่งในปัญหาทางสุขภาพที่สามารถพบเจอได้บ่อยในทุกช่วงอายุ โดยสาเหตุของอาการปวดเมื่อยดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงานที่ต้องนั่ง หรือยืนเป็นเวลานาน การออกกำลังกายที่หักโหมจนเกินไป หรือแม้กระทั่งการทำกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยวิธีการรักษาอาการปวดเมื่อยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ก็มีด้วยกันอยู่หลายวิธีนับตั้งแต่การใช้ยา การผ่าตัด และการทำกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพ โดยการใช้งานเครื่อง PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คลินิกกายภาพได้มีการนำเอาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ในการกระตุ้นเนื้อเยื่อและระบบประสาทส่วนปลาย เพื่อประโยชน์ในการช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

เจาะลึกหลักการบำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เครื่อง PMS)
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic waves) เป็นคลื่นที่ประกอบด้วยสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ในทิศทางเดียวกันและมีความเร็วเทียบเท่ากับแสง โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้เองจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกันหลายประเภทตามความถี่และพลังงานที่ต้องการใช้งาน อาทิ คลื่นวิทยุ คลื่นไมโครเวฟ และรังสีเอกซ์ เป็นต้น สำหรับในทางการแพทย์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกนำมาใช้ในการบำบัดด้วย PMS กายภาพ ที่คลินิกกายภาพ มักจะอยู่ในช่วงคลื่นที่มีความถี่ต่ำถึงกลาง เพื่อประโยชน์ในการช่วยให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าวสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายในระหว่างการรักษา

โดยในการบำบัดอาการปวดเมื่อย หรืออาการเจ็บปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation – PMS) ที่คลินิกกายภาพนั้น เครื่อง PMS จะเป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่และความแรงที่เหมาะสมออกมาผ่านร่างกายเป็นช่วง ๆ (pulsed) เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อ ร่วมกับการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและบำบัดอาการปวดเมื่อยและอักเสบของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ทำให้เกิดความร้อน หรือความเสียหายต่อตัวเนื้อเยื่อ เพราะฉะนั้นแล้ว การทำ PMS กายภาพ ที่คลินิกกายภาพ จึงเป็นขั้นตอนที่สามารถตอบโจทย์การช่วยบำบัดและยับยั้งอาการปวดเมื่อย หรือเจ็บปวดเรื้อรังได้อย่างแท้จริง

ประโยชน์ที่สำคัญของการรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เครื่อง PMS)

  • ช่วยลดอาการปวด : การทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพสามารถช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการเจ็บปวดที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นประสาท กล้ามเนื้อ พังผืด และเอ็น ทั้งอาการปวดเบื้องต้นและอาการปวดเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด : คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาในระหว่างการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งจะส่งผลต่อการช่วยทำให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ : การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพสามารถช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ชะลอการฝ่อของกล้ามเนื้อ ร่วมกับการช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับน้ำหนักของกล้ามเนื้อในระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวหรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้

  • ปรับปรุงการทำงานของระบบประสาท : การทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีผลโดยตรงต่อระบบประสาท เนื่องจากการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนปลายได้โดยตรง อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทเพื่อการช่วยทำให้การทำงานของระบบประสาทเป็นไปอย่างปกติอีกด้วย

ขั้นตอนการบำบัดอาการปวดเมื่อย และการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า การทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพจะเป็นการบำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้ที่เข้ารับการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลและออกแบบโปรแกรมการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพ ด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่มากที่สุด โดยขั้นตอนการบำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS มีรายละเอียดดังนี้

  • การประเมินอาการ : ก่อนเริ่มต้นการบำบัดอาการปวดเมื่อยและการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพจะเป็นผู้ทำการประเมินอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาการปวดเมื่อย หรืออาการเจ็บปวดดังกล่าวสามารถรักษาด้วยเครื่อง PMS ได้หรือไม่ อีกทั้งอาการปวดเมื่อยของแต่ละคนควรที่จะต้องทำการยิงคลื่นกระตุ้นไปยังกล้ามเนื้อมัดไหนบ้างตามความเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด

  • การวางตำแหน่งหัวสัมผัส : หลังจากที่ได้ประเมินอาการที่คลินิกกายภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการวางตำแหน่งหัวสัมผัส โดยนักกายภาพบำบัดจะนำเอาหัวสัมผัสของเครื่อง PMS มาวางลงบนผิวหนังในบริเวณกล้ามเนื้อมัดที่มีปัญหาโดยตรง หรือกล้ามเนื้อมัดอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่ต้องการ

  • การทำ PMS กายภาพ : หลังจากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพจะทำการปรับตั้งค่าความเข้มของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าตามความเหมาะสมเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS มักจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและตำแหน่งที่ต้องการบำบัด

การทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่คลินิกกายภาพ เป็นหนึ่งในวิธีการบำบัดอาการปวดเมื่อยและอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกกายภาพที่พร้อมให้บริการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่อง PMS ที่ Vitala by Health Design เราคือสหคลินิกผู้ให้บริการด้านกายภาพบำบัด PMS กายภาพ การทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง กายภาพบำบัดเส้นเอ็นอักเสบ นวดสปอร์ต กายภาพบำบัดที่บ้าน กายภาพบำบัดหลังผ่าตัดข้อเข่า กายภาพออฟฟิศซินโดรม นวดรักษาอาการ กายภาพหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ฝังเข็มแก้ปวด กายภาพหัวเข่า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และแพทย์ทางเลือก ที่พร้อมรองรับการให้บริการด้านสุขภาพในทุกมิติเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร และเป็นประโยชน์ต่อการบำบัดอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬามากที่สุด

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมเริ่มต้นสุขภาพดีกับ Vitala

Tel : 065-902-3290 Email : health.vitala@gmail.com